Loading Events

« All Events

  • This event has passed.

S Gallery # Tanquerel # Out Of Curiosity

June 18, 2015 @ 6:00 pmJuly 18, 2015 @ 9:00 pm ICT

Free
S Gallery # Tanquerel # Out Of Curiosity

Dear friends, collectors and art lovers,

We are pleased to announce our new opening of a new solo show at S Gallery in honor of French artist Bruno Tanquerel;

Please join us for the opening of “Out of Curiosity” the 18st of June. The press conference will be held at 5:00pm and the opening ceremony will start at 6:00pm.

Don’t hesitate to contact us if you would like to interview the artist or for any inquiries you may have.

Kind regards,

S gallery Team

Out of Curiosity

Bruno Tanquerel’s imagery is a celebration of fantasy. Humor and sadness coincide in his assemblages, a mixture of familiarity and imagination. This art bears eloquent witness to Tanquerel’s lifeexperience and to his sensitive observation of human comedy. His unique iconography may be understood as a form of poetic metaphor expressed with a system of private signs. This is an art which is technically inventive. Tanquerel never accepts or recognizes the formal limitations of anything, His aesthetic is a pastiche of styles in which categories become blurred. His fusion of abstraction and figuration result in a gesturing of line whichtransforms the ordinary and everyday into dramatic theatricality.

Building on his French heritage, Tanquerel has created a vitalized theology in which intellect and wit meet and coalesce in the realm of fantasy. Living most of his adult life in Paris, Tanquerel has been witness first hand to the art of great masters. His curious expression evinces the idiom of the enigmatic, intellectual Marcel Duchamp, Duchamp’s pioneering Dada spirit which associates art with non-art, his confusing the traditional hierarchy artistic values, producing objects from every materials, and his insistence on challenging the audience’s preconceptions about art and taste were particularly influential in shaping the conceptions of Tanquerel. Many of these characteristics surface in his art which, too, is filled with contradiction and a sense of defiance. Punning becomes a critical device for releasing the emotional content of the younger artist’s work. However the nihilistic impulse which underlies the master’s disconcerting values is absent in the philosophical thinking of Bruno Tanquerel. It would be wrong to associate his aesthetic with the Neo-Dada art which builds on a nihilist foundation and has been passed down to younger generations through the output of Klein and Warhol. A closer affinity can be drawn with the art of Pual Klee who endeavored to translate his visual meanings of an isolated and detached society through highly whimsical, deliberate child-like, raw hieroglyphs. Tanquerel, like Klee, searches for a means to represent essences about human relationships through his compelling abstract pictorial expressive lines and inventive spaces.

Unlike the sinister farce which prevails in much contemporary art, a childlike innocence is felt in this compelling and original body of work. This characteristic should not be faulted or mistaken for simple art, for here is and art which evinces a high degree of intelligence and sophistication, a paradoxical quality. Tanquerel opts to celebrate human relationships and the relevance of small intimate encounters instead of focusing on mass society with its psychological isolation and its complex political, economical, and architectural structures. His imagination seeks positive answers at a time when man’s tragic predicament is explicitly spot-lighted.

Out of Curiosity

ผลงานภาพศิลปะของศิลปิน บรูโน่ แทนเควอเรลนั้นถือเป็นการเฉลิมฉลองจินตนาการ โดยการแสดงออกถึงอารมณ์ขันเคล้าไปกับอารมณ์เศร้าโศกที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกัน ซึ่งถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคุ้นเคยกับจินตนาการ
ได้อย่างสมบูรณ์ ผลงานศิลปะนี้ส่งผ่านความคิดที่สามารถโน้มน้าวจิตใจผู้ที่ชมงานศิลปะให้รับรู้และเข้าใจถึงประสบการณ์ชีวิตของแทนเควอเรล อีกทั้งการเฝ้าสังเกตุการณ์อย่างละเอียดอ่อนถึงอารมณ์ตลกขบขันของมนุษย์ การเขียน
รูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขานั้นบางทีก็สามารถนำมาตีความและเข้าใจได้ในรูปแบบของคำอุปมาในบทกวี ที่แสดงออกด้วยระบบของสัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ ผลงานของเขาถือเป็นศิลปะที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้น
อย่างมีเทคนิค แทนเควอเรลไม่เคยยอมรับหรือตระหนักถึงข้อจำกัดอย่างเป็นทางการใดๆ ความงามในงานศิลปะของเขาคืองานผสมผสานทางศิลปะในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งศิลปะแต่ละประเภทจะดูงดงามแบบเลือนลาง การหลอมรวม
ของศิลปะแบบนามธรรมและการวาดภาพในเชิงอุปมาอุปไมยที่ทำให้เกิดการแสดงท่าทางของเส้นสายที่มีการเปลี่ยนรูปจากสิ่งธรรมดาที่เกิดขึ้นทุกๆ วันไปสู่พฤติกรรมเกินจริงที่เกิดขึ้นในโลกแห่งละคร

ด้วยพื้นฐานความเป็นชาวฝรั่งเศสของเขา แทนเควอเรลได้สร้างสรรค์งานที่เกี่ยวข้องกับศาสนวิทยาที่ให้พลังและชีวิต ซึ่งเป็นจุดที่ความคิดและจิตใจมาพบกันและรวมตัวกันภายในดินแดนแห่งจินตนาการ เขาได้ใช้ชีวิตเกือบทั้งหมด
ของเขาในกรุงปารีส แทนเควอเรลได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ทางด้านศิลปะมากมายจากปรมาจารย์ทางด้านศิลปะหลายท่าน การแสดงออกถึงความอยากรู้อยากเห็นอย่างชัดแจ้งต่อผลงานที่มีรูปแบบที่แตกต่างกันและยาก
ต่อการอธิบายของมาร์แซล ดูร์ช็อง ศิลปินผู้ปราดเปรื่อง ดูร์ช็องผู้บุกเบิกลัทธิดาดา (Dada) ที่เชื่อมโยงผลงานศิลปะเข้ากับผลงานที่ไม่ใช่ศิลปะ ความสับสนที่มีอยู่ในใจของแทนเควอเรลระหว่างการลำดับคุณค่าทางสุนทรียภาพแบบดั้งเดิม
การผลิตสิ่งของจากวัสดุต่างๆ อีกทั้งการท้าทายอย่างไม่หยุดยั้งของเขาต่ออคติในเรื่องของศิลปะและรสนิยมของผู้ชมงาน ซึ่งมีอิทธิพลเป็นอย่างยิ่งกับรูปแบบคอนเซ็ปต์งานศิลปะต่างๆ ที่แทนเควอเรลได้สร้างสรรค์ขึ้น หลากหลายลักษณะเด่น
ภายนอกของผลงานศิลปะของเขานั้นจะเต็มไปด้วยความแตกต่างและอารมณ์แห่งความท้าทาย การสื่อสารด้วยอารมณ์ขันแบบตีความได้สองแง่สองง่ามกลายเป็นกลไกสำคัญสำหรับการปลดปล่อยเนื้อหาอันเต็มไปด้วยอารมณ์ในผลงานศิลปะ
ของศิลปินหนุ่มผู้นี้ อย่างไรก็ดีความเชื่อที่ว่าไม่มีอะไรมีคุณค่าและเป็นสิ่งจริงแท้ในโลกใบนี้ของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่มากไปด้วยประสบการณ์นั้น กลับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเที่ยงแท้ในความคิดเชิงปรัชญาของ บรูโน่ แทนเควอเรล มันอาจจะผิด
ก็ได้ที่เขาได้เชื่อมโยงสุนทรียะของเขาให้เข้ากับศิลปะแบบนีโอ-ดาดา (Neo-Dada) ซึ่งมีการพัฒนามาจากพื้นฐานความเชื่อที่ว่าไม่มีอะไรมีคุณค่าและเป็นสิ่งจริงแท้ในโลกใบนี้ที่ได้สืบทอดมาสู่คนรุ่นหลังโดยผ่านผลงานศิลปะของไคลน์ (Klein)
and และวอร์ฮอล (Warhol)

ความเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมนั้น สามารถถ่ายทอดออกมาผ่านผลงานศิลปะของศิลปินพอล คลี (Pual Klee) ผู้ที่มีความพยายามในการตีความความหมายต่างๆ โดยการมองผ่านสังคมอันแปลกแยกและโดดเดี่ยวผ่านหลากหลายลวดลายกราฟฟิค
แบบดิบๆ ด้วยความรู้สึกตั้งใจแบบเด็กๆ แทนเควอเรลก็เหมือนกับคลีที่ค้นหาวิธีต่างๆ ในการนำเสนอแก่นแท้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ของมนุษย์ผ่านเส้นสายในภาพซึ่งมีความหมายเชิงนามธรรมอันน่าสนใจบนพื้นที่อันสร้างสรรค์

แตกต่างจากละครตลกที่แฝงไปด้วยลางร้ายซึ่งพบได้ทั่วไปในผลงานศิลปะแบบร่วมสมัยความไร้เดียงสาของเด็กทำให้รู้สึกถึงตัวตนของผลงานดั้งเดิมอันน่าดึงดูด ลักษณะเฉพาะเหล่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งผิดหรือเป็นข้อผิดพลาดสำหรับ
ศิลปะแบบธรรมดาๆ ณ ที่แห่งนี้ศิลปะที่สามารถแสดงความรู้สึกให้เห็นอย่างชัดแจ้งถึงเชาวน์ปัญญาและการใช้ชีวิตของผู้ใหญ่ในสังคมเมือง อีกทั้งคุณภาพที่ขัดแย้งกันแทนเควอเรลเลือกที่จะเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ในหลากหลายรูปแบบ
ของมนุษย์และความสัมพันธ์กันของการพบกันแบบส่วนตัวในกลุ่มเล็กๆ แทนการพบปะกับคนหมู่มากในสังคมขนาดใหญ่ที่มีความแปลกแยกทางด้านจิตใจ อีกทั้งโครงสร้างต่างๆ ทางสถาปัตยกรรม การเมือง และเศรษฐกิจอันซับซ้อน
จินตนาการของเขานั้นค้นหาคำตอบในแง่บวกเมื่อถึงเวลาที่มนุษย์ต้องพบเจอกับสถานการณ์อันน่าสลดใจที่เกิดขึ้นอย่างหนักหน่วงในช่วงชีวิตหนึ่

Details

Start:
June 18, 2015 @ 6:00 pm ICT
End:
July 18, 2015 @ 9:00 pm ICT
Cost:
Free

Venue

S Gallery
189 Sukhumvit Road Soi 13-15
Bangkok, BKK 10310 Thailand

Leave a Comment